เรียกได้ว่าตั้งแต่ช่วงค่ำเมื่อวาน ต่อเนื่องจนถึงตอนนี้ กรณีการปาดหน้าเซ็นสัญญากับ หลุยส์ ดิอาซ ของหงส์แดงลิเวอร์พูลกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์กันเลยทีเดียว เพราะตั้งแต่สื่อโปรตุเกส และ สื่อโคลัมเบียปูดข่าวการเจรจาออกมาตั้งแต่ช่วงเย็น ตามเวลาไทยทุกเพจข่าวในโลกฟุตบอล ต่างตามล่าข่าวนี้กันอย่างคึกคักและลิเวอร์พูลก็ยังไม่ให้ข่าวอะไรอย่างเป็นทางการ

สำหรับเกมการแข่งขันของหงส์แดงลิเวอร์พูล นัดต่อไปจะเป็นเกมในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ โดยจะพบกับสโมสรคริสตัลพาเลซในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้และการให้สัมภาษณ์ก่อนเกม คลอป์ป ก็พูดถึงการเข้ารอบชิงชนะเลิศคาราบาวคัพ ซึ่งเจ้าตัวดูจะมีความสุขอย่างมาก กับการที่พาทีมไปสนามเวมบลีย์ได้สำเร็จ ซึ่งนักข่าวได้ถามอีกว่าตอนนี้ทั้งทีมมีความสุขกันดีใช่หรือไม่ 

เป็นข่าวที่ทำเอาแฟนผีปวดขมับกันเลยทีเดียวเพราะ ราล์ฟ รังนิกส์ เข้าไปคุมทีมซ้อมตามปกติที่สนามซ้อมแต่เจ้าตัวดันลืมไปว่า ให้นักเตะหยุดพักหลังจากลงสนามในรายการ FA cup แถมเจ้าตัวยังโทรหาทีมงานว่าทำไมยังไม่มาซ้อม ทีมงานหายไปไหนกันหมด ก็เรียกได้ว่าทำเอาขำกันทั้งสโมสร ว่าพวกเขามีกุนซือขี้ลืมงานนี้จะพาทีมไปรอดจนจบเลก 2 หรือไม่

ในช่วงเปิดตลาดฤดูหนาวนี้มีแหล่งข่าวหลายแหล่งให้ข้อมูลตรงกันว่า ลอริส คาริอุส จะถูกเทขายออกจากสโมสรหงส์แดงลิเวอร์พูล แต่ยังไม่มีทีมไหนยื่นข้อเสนอเข้ามาอย่างจริงจัง แม้ว่าจะมีข่าวพัวพันกับทีมในลีกบุนเดสลีกาอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งสถานการณ์ของ ลอริส คาริอุส กับหงส์แดงลิเวอร์พูลดูเหมือนจะไม่ดีสักเท่าไหร่ แม้ว่าหงส์แดงรับเขากลับเข้ามาอยู่ในทีม 

แม้ว่าในฤดูกาลนี้สโมสรดัง บาร์เซโลน่า จะมีปัญหาภายในค่อนข้างเยอะ และสภาพทีมค่อนข้างที่จะย่ำแย่เรียกว่าแฟนยังแซวว่า บาร์เซโลน่าพิการมาก แต่ด้วยความสามัคคีของนักเตะในทีมจากการลงสนามในนัดล่าสุด พวกเขาก็สามารถขยับอันดับขึ้นมาอยู่ที่ 5 ของตารางลาลีกาสเปนได้แล้ว และเป็นสัญญาณที่ดีที่จะทำให้ทั้งนักเตะและแฟนบอล มีกำลังใจเพิ่มมากขึ้น สำหรับแฟนบอลบาร์เซโลน่าส่วนใหญ่มองว่าฤดูกาลนี้พวกเขาประสบปัญหามากมาย  ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของงบประมาณในการทำทีม ซึ่งบาร์เซโลน่ามีปัญหาทางการเงิน หลายคนแซวว่าจากทีมเศรษฐีกลายเป็นทีมถังแตก และกับการที่ขาดนักเตะคนสำคัญอย่าง ลีโอ เนลเมสซี่ ทำให้สภาพทีม บาร์เซโลน่า  ต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แต่นั่นก็เป็นสัญญาณที่ดี เพราะมันหมายถึงการถ่ายเลือดใหม่การเลือกใช้นักเตะที่หลากหลายเพิ่มมากขึ้นและไม่ฝากความหวังไว้กับนักเตะคนใดคนหนึ่งเพียงคนเดียวก็ทำให้น่าจะเห็นอนาคตอันสดใสของ บาร์เซโลน่า กันได้บ้าง แต่ที่แน่ๆในฤดูกาลนี้พวกเขายังต้องฝ่าฟันอุปสรรคอีกมากมาย เพราะหากหวังจะคว้าแชมป์ ก็ดูจะค่อนข้างยากอยู่พอสมควร แต่การที่พวกเขากลับมาอยู่อันดับที่ 5 ของตารางได้ก็เรียกได้ว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ดี และน่าจะได้โมเมนตัมดีจากการไต่อันดับกลับขึ้นมาในครั้งนี้ได้ดังนั้นก็ต้องลุ้นกันต่อว่าในเลกที่ 2  บาร์เซโลน่า  จะสามารถปรับสภาพทีมปรับสภาพความพร้อมของตัวเองขึ้นมาได้มากน้อยขนาดไหน